สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยนั้น มีการแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ เงินต้นไม่เกิน 5,000.- บาท คิดดอกเบี้ย 0.50% ต่อเดือน เงินต้นเกิน 5,000.- บาท คิดดอกเบี้ย 1%ต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 30,000.- บาทขึ้นไป- 100,000.-บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ซึ่งเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเอกชน นอกจากนี้ ผู้จำนำสามารถผ่อนชำระเงินต้นได้ โดยสถานธนานุบาลไม่จำกัดวงเงินผ่อนชำระ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้จำนำอีกทางหนึ่ง
ด้านนายอภิวัฒน์ ไซยกุล ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำไว้มากที่สุดคือ ทองคำรูปพรรณโดยสถานธนานุบาลได้รับจำนำทองคำรูปพรรณในราคาบาทละ 14,000.- บาท รองลงมาคือประเภทเครื่องมือช่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งการที่จำนวนผู้มาใช้บริการจำนำทรัพย์สินกับสถานธนานุบาลมากขึ้นและวงเงินสูงขึ้นนั้นคาดว่ามีสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่เกี่ยวกับการเล่นพนันฟุตบอล ในช่วงบอลโลก ซึ่งทางสถานธนานุบาลได้เน้นให้บริการกับผู้มีรายได้น้อยที่นำทรัพย์สินมาจำนำก่อน อย่างไรก็ตามพบว่าที่ผ่านมามีลูกค้าที่มีฐานะนำทองคำรูปพรรณมาจำนำในวงเงินสูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานธนานุบาลได้กำหนดให้วงเงินตั๋วจำนำ 1 ใบราคาไม่เกิน 1 แสนบาท และ1 คนสามารถจำนำได้ไม่เกิน 5 ใบ หรือ 5 แสนบาท
***ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ /ภาพ สารภี ศรีธรรมรัตน์ /สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต / เรียบเรียง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น