วันอังคารที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เทศบาลนครภูเก็ตเตรียมสำรองเม็ดเงินเพื่อให้บริการประชาชนในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2553 เพิ่มเติมอีก 90 ล้านบาท


นางสาวสมใจ สุวรรณศุภพนา นายกเทศมนตรีนครภูเก็ต เปิดเผยว่า สถานธนานุบาล เทศบาลนครภูเก็ตได้รายงานข้อมูลการให้บริการช่วยเหลือบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชนที่ต้องประสบกับปัญหาเศรษฐกิจในเขตเทศบาลช่วงเดือน มกราคม– มิถุนายนปี 2553 ว่า มีผู้มาใช้บริการจำนำทรัพย์สินกับโรงจำนำเทศบาลจำนวน 31,280ราย เพิ่มจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีผู้มาใช้บริการจำนวน 30,168ราย หรือเพิ่มขึ้นคิดเป็น 4% มีวงเงินการรับจำนำประมาณ 480 ล้านบาท สูงขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อนที่มีการใช้วงเงินในช่วงครึ่งปีแรกจำนวน 393.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 22% ซึ่งยอดการใช้บริการที่สูงที่สุดคือช่วงเปิดภาคเรียนใหม่โดยเฉพาะในเดือนพฤษภาคม-มิถุนายน โดยในปี 2553 มียอดรับจำนำสูงถึง 91 และ 89 ล้านบาทตามลำดับ ขณะที่ในช่วงเดียวกันของปี 2552 มียอดรับจำนำ 71 และ 76 ล้านบาทตามลำดับ ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งจำนวนผู้มาใช้บริการและวงเงินรับจำนำ เทศบาลนครภูเก็ตจึงได้เตรียมกู้เงินจากสถาบันการเงินเพื่อให้โรงรับจำนำสามารถให้บริการแก่ประชาชนในช่วงครึ่งหลังของปีได้อย่างต่อเนื่องเพิ่มเติมอีกประมาณ 90 ล้านบาท

สำหรับการคิดอัตราดอกเบี้ยนั้น มีการแบ่งออกเป็น 3 ช่วงคือ เงินต้นไม่เกิน 5,000.- บาท คิดดอกเบี้ย 0.50% ต่อเดือน เงินต้นเกิน 5,000.- บาท คิดดอกเบี้ย 1%ต่อเดือน เงินต้นเกินกว่า 30,000.- บาทขึ้นไป- 100,000.-บาท คิดอัตราดอกเบี้ย 1.25% ต่อเดือน ซึ่งเป็นการคิดอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าเอกชน นอกจากนี้ ผู้จำนำสามารถผ่อนชำระเงินต้นได้ โดยสถานธนานุบาลไม่จำกัดวงเงินผ่อนชำระ เพื่อเป็นการช่วยเหลือผู้จำนำอีกทางหนึ่ง

ด้านนายอภิวัฒน์ ไซยกุล ผู้จัดการสถานธนานุบาลเทศบาลนครภูเก็ต กล่าวเพิ่มเติมว่า ในส่วนของทรัพย์สินที่ประชาชนนำมาจำนำไว้มากที่สุดคือ ทองคำรูปพรรณโดยสถานธนานุบาลได้รับจำนำทองคำรูปพรรณในราคาบาทละ 14,000.- บาท รองลงมาคือประเภทเครื่องมือช่าง และเครื่องใช้ไฟฟ้า ซึ่งการที่จำนวนผู้มาใช้บริการจำนำทรัพย์สินกับสถานธนานุบาลมากขึ้นและวงเงินสูงขึ้นนั้นคาดว่ามีสาเหตุมาจากสภาพเศรษฐกิจโดยรวมไม่เกี่ยวกับการเล่นพนันฟุตบอล ในช่วงบอลโลก ซึ่งทางสถานธนานุบาลได้เน้นให้บริการกับผู้มีรายได้น้อยที่นำทรัพย์สินมาจำนำก่อน อย่างไรก็ตามพบว่าที่ผ่านมามีลูกค้าที่มีฐานะนำทองคำรูปพรรณมาจำนำในวงเงินสูงเป็นจำนวนมาก ซึ่งสถานธนานุบาลได้กำหนดให้วงเงินตั๋วจำนำ 1 ใบราคาไม่เกิน 1 แสนบาท และ1 คนสามารถจำนำได้ไม่เกิน 5 ใบ หรือ 5 แสนบาท

***ณรงค์ศักดิ์ แสงสีดำ /ภาพ สารภี ศรีธรรมรัตน์ /สนับสนุนข่าว เสงี่ยม เอียดตน ส.ปชส.ภูเก็ต / เรียบเรียง

ไม่มีความคิดเห็น: