วันศุกร์ที่ 8 ตุลาคม พ.ศ. 2553

นครภูเก็ต ร่วม ส.สิ่งแวดล้อมไทยเสริมความรู้รับมือการเปลี่ยนภูมิอากาศเชื่อน้ำทะเลจะสูงขึ้น

เทศบาลนครภูเก็ตร่วมสถาบันสิ่งแวดล้อมไทย เสริมความรู้รับมือภาวะการเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ “ธุรกิจและการท่องเที่ยวภูเก็ต:ความเสี่ยงและความท้าทาย...จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ขณะที่นักวิชาการคาดการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศส่งผลน้ำทะเลเพิ่ม-การกัดเซาะชายฝั่งเกิดมาก

วันที่ 7 ต.ค.53 ที่โรงแรมภูเก็ตเมอร์ลิน อ.เมือง จ.ภูเก็ต นายนิวิทย์ อรุณรัตน์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดภูเก็ต เป็นประธานเปิดการสัมมนาเรื่อง “ธุรกิจและการท่องเที่ยวภูเก็ต: ความเสี่ยงและความท้าทาย..จากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ซึ่งเทศบาลนครภูเก็ต ร่วมกับสถาบันสิ่งแวดล้อมไทยจัดขึ้น ภายใต้โครงการ “เครือข่ายเมืองในเอเชียเพื่อรับมือการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (Asian Cities Cilimate change Resilience Network -ACCCRN) ซึ่งมีการดำเนินการใน 10 เมือง 4 ประเทศ

ประกอบด้วย เวียดนาม อินโดนีเซีย และ ไทย เพื่อให้เมืองเตรียมความพร้อมในการรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และสภาวะโลกร้อนที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน โดยการประสานงานกับเครือข่ายมุ่งเน้นสร้างความตระหนักและความร่วมมือระหว่างภาคีต่างๆ ระดับท้องถิ่นในการพัฒนายุทธศาสตร์และมาตรการต่างๆเพื่อเตรียมรับมือและจัดการกับผลกระทบที่อาจจะเกิดต่อเมืองและประชาชน

สำหรับประเทศไทยสถาบันสิ่งแวดล้อม เป็นหน่วยงานหลักในการดำเนินโครงการร่วมกับเมืองนำร่อง 2 เมืองหลัก คือ เมืองหาดใหญ่ และเชียงราย และอีก 3 เมืองเครอข่าย คือ เมืองภูเก็ต เมืองสมุทรสาคร และเมืองอุดรธานี

สำหรับเมืองภูเก็ตภูเก็ตนั้นเป็นเมืองท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญ แต่การเปลี่ยนแปลงสภาพอุณหภูมิในปัจจุบันย่อมส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวของภูเก็ต เช่น การเปลี่ยนแปลงอุณหภูมิน้ำทะเลย่อมส่งผลกระทบต่อปะการังและสิ่งมีชีวิต การเพิ่มระดับของน้ำทะเลและการกัดเซาะชายฝั่งที่ส่งผลกระทบต่อที่ดินติดชายทะเล

“การสัมมนาในครั้งนี้ ทางผู้จัดการสัมมนาต้องการที่จะสร้างความเข้าใจและความตระหนักในเรื่องของผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และเพื่อระดมความคิดเห็นในการแก้ไขปัญหาในอนาคต โดยมีผู้เชี่ยวชาญมาให้ความรู้ อาทิ “ความเสี่ยงของเมืองภูเก็ต..กับการการเตรียมพร้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ”

โดย นางสาว จริยา ฐิติเวศน์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายวิจัยฯ ศูนย์เครือข่ายงานวิเคราะห์วิจัยและฝึกอบรมการเปลี่ยนแปลงของโลกแห่งภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย กล่าวบรรยายพิเศษ เรื่อง “ความเสี่ยงของเมืองภูเก็ต..กับการการเตรียมพร้อมและรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ” ว่า จากการคาดการณ์คิดว่าในอนาคตจังหวัดภูเก็ตรวมทั้งจังหวัดที่อยู่ติดทะเลมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบจากน้ำทะเลที่เพิ่มสูงขึ้นซึ่งจากปราฎการณ์น้ำทะเลที่สูงขึ้นก็จะส่งผลกระทบต่อปัญหาการกัดเซาะชายฝั่ง

จากการคาดการณ์คิดว่าประมาณ 30 ปีข้างน้ำนำทะเลจะสูงขึ้นอีกประมาณ 20% ซึ่งเป็นปัจจัยที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงของโลก เมื่อเกิดน้ำทะเลสูงขึ้น และมีปัจจัยที่เข้ามาส่งเสริมอย่างเรื่องของมรสุมก็จะส่งผลกระทบอย่างหยักต่อชายฝั่ง จะทำให้เกิดการกัดเซาะอย่างรุนแรงซึ่งเรื่องนี้ทุกภาคส่วนจะต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือ

อีกปัจจัยหนึ่งที่ส่งผลกระทบอย่างแน่นอนต่อการกัดเซาะชายหาดคือเรื่องของการก่อสร้างที่เกิดขึ้นใกล้ชายฝั่งซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง และอีกสิ่งหนึ่งที่จะต้องเตรียมความพร้อมในการรับมือ คือ เรื่องของพายุแม้ว่าจะมีแนวโน้มการเกิดพายุไม่มากแต่ก็มีแนวโน้มของความรุนแรงจากการเกิดพายุจะมากขึ้น เพราะไม่ได้มีการเตรียมความพร้อมรับมือเหมือนกับประเทศที่มีพายุเกิดจำนวนมาก

ข้อมูล...ผู้จัดการ ออนไลน์

ไม่มีความคิดเห็น: